Monday, 18 November 2013

ข้อควรรู้ในการซื้อรถมือสอง ตอนที่ 1 Tips on buying a used car 1


ข้อควรรู้ในการซื้อรถมือสอง ตอนที่ 1 
Tips on buying a used car 1

การเลือกซื้อรถยนต์มือสอง


ในปัจจุบันตลาดรถยนต์มือสองกำลังบูมอย่างมาก   มีการซื้อขายและการประมูลไม่เว้นแต่ละวัน  เต็นท์ขายรถต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นมารองรับการซื้อราวกับดอกเห็ด  ทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสในการเลือกซื้อมากขึ้นด้วยสนนราคาที่ถูกกว่ารถใหม่คุณภาพก็พอใช้ถ้าเลือกกันดี ๆ ซึ่งคนธรรมดาที่มีเงินทองไม่มากนักก็พอที่จะเลือกซื้อมาเป็นของเจ้าของได้  ถึงอุปกรณ์ชิ้นต่าง ๆ ของรถมือสองกันบ้าง  ซึ่งก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นรถที่เคยผ่านการใช้งานมาแล้ว  ดังนั้นสภาพต่าง ๆ ของเครื่องยนต์  อุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องยนต์  อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ต้องมีส่วนลึกหรอบ้าง  จะมากบ้างน้อยบ้างก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน  และเจ้าของรถเดิมว่าใช้งานถนอมแค่ไหน  การรเลือกซื้อรถยนต์ประเภทนี้ต้องคิดมากทีเดียวบางครั้งซื้อแล้วต้องมานั่งซ่อมอีก  ซึ่งเป็นเรื่องไม่คาดคิดมาก่อนเพราะตอนแรกดูสภาพดีแต่เมื่อมาใช้งานจริงแล้วปัญหาต่าง ๆ กลับตามมา  เพราะขาดความเข้าใจและไม่รู้หลักในการเลือกซื้อรถยนต์ใช้แล้ว  หรืออาจจะเป็นเพราะถูกหลอกจากคนรู้จัก  ท่านจึงควรมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยนต์ใช้แล้วบ้างเผื่อท่านคิดจะมีรถแบบนี้ไว้ใช้สักคัน




ขั้นแรกต้องถามตัวเองว่ามีความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์  รถยนต์ขนาดไหน  เคยรู้บ้างไหมว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นมีหน้าที่อะไร  ทำอะไรได้บ้างถ้าท่านมั่นใจว่าตัวเองมีประสบการณ์สูงในเรื่องนี้พอที่จะไปดูรถยนต์ด้วยตัวเองและลองขับด้วยตัวเอง  ท่านก็สบายใจได้ในขั้นตอนนี้  แต่ถ้าท่านไม่มีความรู้อะไรเลยขับเป็นอย่างเดียว  ในกรณีนี้ท่านต้องพึ่งช่างหรือผู้มีความคุ้นเคยกับรถมากกว่าท่าน  และมีความสนิทกันไว้ใจได้  ให้เขาพาท่านไปดูรถเพื่อความมั่นใจว่าท่านสามารถซื้อรถในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด




จำไว้เสมอว่าในการเลือกซื้อรถมือสองหรือการตรวจเช็ครถยนต์ต้องเป็นเวลากลางวันเพื่อจะได้สามารถมองเห็นข้อบกพร่องได้ง่าย  เมื่อท่านถูกใจและถูกเงินในกระเป๋าแล้ว  สิ่งที่ท่านต้องตรวจดูมีด้วยกัน  3  แห่งคือ  โครงตัวถัง, ช่วงล่าง, เครื่องยนต์

 

โครงตัวถัง

โครงตัวถังนับเป็นส่วนประกอบส่วนแรกของรถยนต์ที่ท่านต้องตรวจดูก่อนเป็นอันดับแรก  การตรวจนั้นจะเริ่มตั้งแต่  ดูแนวรางน้ำขอบหลังคารถยนต์  ถ้าหากว้างหรือคดแสดงว่าเคยคว่ำมาแล้วอาจเสียศูนย์  ทรงตัวไม่ดีเป็นอันตรายมาก  ในส่วนนี้ต้องพยายามสำรวจให้ทั่วหลังคารถด้วยการมองทั้งทางด้านหน้ารถ
– ท้ายรถ  พยายามมองให้ดีเพราะส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญถ้าหลังคายุบหรือคดจะทำให้รถหมุนได้ถ้าวิ่งด้วยความเร็วสูงหรือโดนลมปะทะแรง ๆ  แต่ในบางครั้งรถที่เคยคว่ำก็อาจจะทำหลังคามาใหม่ทำให้มองไม่ออกเหมือนกัน  ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบอีกที




-          ตรวจรอยสนิมกัดกินผุกร่อน  บริเวณบังโคลนหน้า  รอบดวง  โคมไฟ  ทั้งสองข้าง  สนิมเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับรถยนต์  ซึ่งจะลามไปทั่วรถถ้าปล่อยทิ้งไว้  รอยสนิมจะเกิดได้มากที่สุดบริเวณบังโคลนหน้า  แต่ในบางครั้งอาจจะถูกซ่อมมาเรียบร้อยแล้ว  ดังนั้นต้องตรวจดูด้วยการเอามือลูบบังโคลนด้านใน  ซึ่งในส่วนนี้จะไม่สามารถปกปิดได้  เพราะจะมีร่องรอยการซ่อมหลงเหลืออยู่ใช้มือลูบก็พบ  ท่านต้องพิจารณาว่าซื้อมาแล้วต้องเสียเงินเพิ่มหรือไม่

-          ตรวจรอยสนิมบริเวณบังโคลนหลังขอบด้านใน   บริเวณนี้ก็เช่นเดียวกันกับบังโคลนหน้า  คือ  เกิดสนิมได้ง่ายเชนเดียวกัน  การตรวจก็เช่นเดียวกัน  ใช้มือลูบด้านใน  รอยการซ่อมหรือปะผุจะมีเหลืออยู่ให้เห็น

-          ตรวจรอบโคมไฟท้ายทั้ง  2  ข้าง  มีรอยสนิมมากน้อยเพียงใดส่วนของไฟท้ายก็เป็นสนิมง่าย  ต้องตรวจให้ละเอียดว่ามีรอยสนิมมากน้อย   และต้องเสียค่าซ่อมต่าง ๆ มากหรือไม่  ถ้าซื้อไปแล้วจะคุ้มไหม

-          ตรวจดูรอยผุส่วนท้ายรถที่ขอบฝากระโปรง  และที่ติดใกล้กับกันชน  ต้องเปิดฝากระโปรงออกมาแล้วตรวจดู  และอย่าลืมดูที่บริเวณกันชนติดกับกระโปรงรถส่วนท้ายด้วย  พยายามตรวจดูให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้

-          ตรวจรอยผุบริเวณประตูรถตอนขอบด้านล่าง  และที่ตัวถังของพื้นล่างสุด  บริเวณประตูก็จะเกิดสนิมได้ง่ายเช่นเดียวกัน  ต้องตรวจดูที่ประตูทุกบานหารอยผุว่ามีมากหรือน้อย  การเปิด – ปิดในส่วนต่าง ๆ ของขอบประตูและกระโปรงหลังทำให้ได้สะดวกหรือไม่

-          ตรวจดูใต้ท้องรถ     อาจให้ยกรถขึ้นโดยใช้ขาตั้งแล้วท่านเข้าไปตรวจดูใต้ท้องรถ  แต่อาจใช้วิธีเปิดพรมยางในรถทั้งหมด  แล้วตรวจหาดูรอยผุหรือส่วนที่เสียหายต่าง ๆ

-          ตรวจดูระบบท่อไอเสีย  ให้อยู่ในสภาพที่ดี  ไม่มีรอยแตกหรือสนิมกัดกร่อนจนเกือบจะผุพัง

ช่วงล่าง

ช่วงล่างตรงนี้สำคัญมากในการเลือกซื้อรถใช้แล้ว  เพราะช่วงล่างจะส่งผลต่อการขับขี่  ในด้านการทรงตัวขณะเลี้ยวหรือวิ่งด้วยความเร็วสูง  ถ้าเครื่องช่วงล่างไม่ดีอาจจะเกิดอุบัติเหตุง่ายเมื่อใช้รถ  การตรวจช่วงล่างจะเริ่มตั้งแต่




-          ในการตรวจช่วงล่างต้องยกรถให้สูงขึ้น  เพื่อความสะดวกในการตรวจใต้ท้องรถและสามารถมองเห็นทุกจุดได้ชัดเจน  ท่านควรตรวจใต้ท้องรถด้วยตัวท่านเองถ้าท่านพอมีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์บ้างโดยให้เริ่มตรวจตั้งแต่ห้องเกียร์  โช๊คอัพ  แหนบ  พวงมาลัย  เฟืองท้าย  และช่วงล่างในส่วนอื่น ๆ ถ้ามีสิ่งใดที่สังเกตผิดจากธรรมดา  เช่น  มีน้ำไหลออกมาจากบางแห่ง  มีส่วนหัก  บิด  งอ  แหนบซ้อนกันไม่เป็นระเบียบ  ลองตรวจดูว่าการใช้งานเป็นเช่นไร  แต่ข้อแนะนำว่าการตรวจช่วงล่างขอให้เป็นหน้าที่ของช่างที่ชำนาญและท่านแนะคนพามาจะดีกว่า  เพราะในบางครั้งท่านดูเองอาจจะไม่ทราบเท่ากับช่าง

-          เพลากลาง  ท่านต้องลองเอามือจับเพลากลางแล้วลองหมุนขยับกลับไปกลับมาว่ามีระยะหมุนฟรีมากเพียงใด  ถ้ามีระยะฟรีมากนั่นแสดงว่าชิ้นส่วนต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนหลวม  หรือหมดอายุการใช้งาน

-          ตรวจดูยางทั้ง  5  เส้น  ซึ่งหมายถึงยางอะไหล่ด้วยวามีการใช้งานมากน้อยเพียงใด  ดอกยางสึกมากหรือน้อย   จะต้องซื้อใหม่หรือไม่

-          ตรวจระบบเบรก   ด้วยการลองเหยียบเบรกหรือย้ำเบรกดู1เหยียบเบรกแล้วเบรกจมมิดหายไปแสดงว่าเบรกไม่อยู่  หรือต้องย้ำเบรก  หลายครั้งจึงจะเบรกอยู่ในส่วนนี้ต้องทดลองขับดู

-          ตรวจดูเข็มไมล์ว่ารถใช้งานมามากน้อยเพียงใด  ตรวจดูการสึกหรอของยางเบรกและคลัตช์เปรียบเทียบกับตัวเลข  ซึ่งอาจถูกแก้ไขจำนวนกิโลเมตรที่วิ่งก็ได้

-          ตรวจพวงมาลัย  ด้วยการหมุนกลับไปกลับมา  เพื่อจะดูช่วงฟรีของพวงมาลัยว่ามีมากน้อยเพียงใด  ถ้าช่วงฟรีมากอาจจะเกิดจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ของระบบบังคับเลี้ยวหลวม  ก็ต้องเสียเงินเพิ่มมากขึ้น  ในการซ่อม

No comments:

Post a Comment