ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน การดูแลรักษายางรถยนต์การเลือกยาง เรื่องแบตเตอร์รี่รถยนต์ การทำประกันภัยรถยนต์และอื่นๆ
Monday, 18 November 2013
เรื่องน่ารู้ของเกียร์อัตโนมัติ ตอนที่ 2 Automatic transmission 2
เรื่องน่ารู้ของเกียร์อัตโนมัติ ตอนที่ 2
Automatic transmission 2
“ตำแหน่งเกียร์”
เมื่อทราบหลักการทำงานแบบย่อ ๆแล้วก็มาดูกันที่ตำแหน่งเกียร์ซึ่งจะมีบอกไว้ที่ตรงโคนของคันเกียร์จะยกตัวอย่างเฉพาะในรถรุ่นปัจจุบันที่เกียร์อัตโนมัติจะมี 4 สปีดแล้วนอกจากนี้ยังมีรถนั่งรุ่นใหม่ ๆ ที่ได้มีเพิ่มเป็น 5 เกียร์สปีดแล้วอย่างเช่น BMW ที่ราคาหลายล้านบาทตำแหน่งเกียร์ 4 สปีดที่พบทั่ว ๆ ไปจะมีเขียนแสดงไว้นั้นพอจะอธิบายได้ดังนี้
ตัวPเป็นตำแหน่งที่ใช้ในการจอดรถ ซึ่งย่อมาจากภาษาอังกฤษ Parking แปลว่าจอดรถซึ่งจังหวะนี้เพลากลางจะถูกล็อกทำให้รถเคลื่อนตัวไม่ได้ทุกครั้งที่จอดรถในทางชันเพื่อป้องกันรถไหลควรใช้ร่วมกับเบรคมือแต่หากไปจอดตามห้างสรรพสินค้าหรือลานจอดรถไม่ควรใช้เพราะหากไปขวางทางผู้อื่นแล้วไม่สามารถเข็นรถได้บรรพบุรุษจะโดนกล่าวถึงในทางไม่ดี ประโยชน์อีกอย่างก็สามารถติดเครื่องได้ในตำแหน่งนี้เพราะจะเป็นเกียร์ว่างแต่เพลากลางยังถูกล็อคไม่ให้รถไหลมีประโยชน์ตอนจอดในทางลาดชันทำให้ออกรถได้ง่ายขึ้นเมื่อผู้ขับเหยียบเบรคและเปลี่ยนเกียร์มาในตำแหน่งให้รถขับเคลื่อนต่อไป
ต่อมาก็เป็นตำแหน่ง R ซึ่งย่อมาจาก Reverse อันนี้เป็นเกียร์ถอยหลัง การขยับคันเกียร์จากตำแหน่งอื่นมาให้ตำแหน่ง R นี้ต้องกดปุ่มล็อคคันเกียร์นั้นจะอยู่ด้านข้างของหัวเกียร์ในรถทุกรุ่นเพื่อกันการลืมซึ่งจะทำให้ระบบเกียร์พังและกันการเข้าเกียร์ผิดในกรณีที่ไม่ได้เหลือบตามามองสำหรับการขับปกติและผู้ชำนาญแล้ว
ตำแหน่ง N เป็นเกียร์ว่างซึ่งภาษาอังกฤษเขียนว่า Natural ตำแหน่งนี้จะเหมือนกับเกียร์ว่างในรถเกียร์ธรรมดาที่สามารถเข็นรถได้เวลาจอดตามลานจอดรถและขวางคันอื่นๆอยู่ก็อย่าลืมใช้ตำแหน่งนี้เพื่อให้ยามหรือเจ้าของรถคันอื่นจะได้เข็นเลื่อนรถให้พ้นจากการกีดขวางได้เวลารถจอดติดไฟแดงก็ใช้ได้
ตำแหน่ง D หรือ Drive เป็นตำแหน่งที่ให้รถขับเคลื่อนไปข้างหน้าโดยเกียร์ทุกเกียร์จะทำงานเปลี่ยนตำแหน่งครบทั้งหมดตามความเร็วที่ตั้งโปรแกรมไว้ในการขับขี่รถทั่ว ๆไปบนถนนธรรมดาจะใช้ตำแหน่ง D นี้แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นซึ่งสะดวกสบายมาก
ตำแหน่ง 2 หมายถึงเกียร์จะทำงานเพียง 2 เกียร์ คือ เกียร์ 1 และ 2 เท่านั้นซึ่งเป็นการถูกล็อคเอาไว้ในตำแหน่งนี้เพื่อให้ใช้ตอนที่ต้องการกำลังในการขับเคลื่อนสูงๆ เช่น การขับรถในทางที่เป็นภูเขาสูงชันมาก ๆ ซึ่งการล็อคเกียร์ไวให้ทำงานแค่ 2เกียร์นี้จะช่วยในตอนลงจากที่สูงซึ่งจะใช้เครื่องยนต์ช่วยเบรคผ่านอัตราทดเกียร์ที่สูงนี้ได้เพื่อความปลอดภัยโดยเป็นการช่วยผ่อนแรงการทำงานของระบบเบรคกันเบรคร้อนซึ่งทำให้เกิดอาการเบรคหายจากการเกิดฟองอากาศในน้ำมันเบรคที่เดือนเป็นไอ
ตำแหน่ง 1 อันนี้ก็เป็นการทำงานในเกียร์ 1 เพียงเกียร์เดียวซึ่งเป็นการขับขึ้นทางสูงชันที่ต้องการแรงฉุดลากมากกว่าในเกียร์ตำแหน่ง 2 สังเกตง่าย ๆ ว่าจะใช้เมื่อไรดูได้จากเมื่อใช้ตำแหน่ง 2 พอรถวิ่งไปถึงความเร็วรอบเครื่องที่เกียร์เปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 รถจะไม่มีกำลังทำให้เกียร์เปลี่ยนมาที่ 1อีกจะทำให้เสียจังหวะเราก็จัดการเปลี่ยนมาล็อกไว้ที่เกียร์ 1 ซะเลยจะไปได้ดีกว่ารวมทั้งตอนลงทางชันที่ชันมากแบบค่อย ๆ ย่องลงมาเกียร์ 1 จะช่วยในการหน่วงด้วยเครื่องยนต์ได้ดี ในตำแหน่ง 1 นี้จะช่วยในการหน่วงด้วยเครื่องยนต์ได้ดี ในตำแหน่ง 1 นี้ รถบางรุ่นจะใช้ตัวอักษร L แทนซึ่งหมายถึงตำแหน่งเกียร์ที่ต่ำสุด
“ปุ่มเลือกโปรแกรมต่างๆ”
นอกจากตำแหน่งเกียร์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้ก็จะมีปุ่มเลือกโปรแกรมต่าง ๆเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพของระบบเกียร์อัตโนมัตินี้อีกอันแรกที่มีในรถรุ่นต่าง ๆ ก็คือ ปุ่ม OD(OverDrive)จะมีให้เลือก 2 ตำแหน่งคือ On กับ Off เมื่อกดปุ่ม OD อยู่ในตำแหน่ง On และคันเกียร์อยู่ในตำแหน่ง D โปรแกรมนี้เกียร์จะทำงานครบทั้ง 4 เกียร์เปรียบเสมือนเป็นการเลือกใช้เกียร์จะทำงานครบทั้ง 4เกียร์เปรียบเสมือนเป็นการเลือกใช้เกียร์ 4 กับไม่ใช้นั่นเองซึ่งเหตุผลก็คือเมื่อต้องการขับรถในทางสูงชันแต่ไม่มากเหมือนในการใช้ตำแหน่ง 2 เราก็ใช้เพียงเกียร์3 โดยไม่ต้องเลื่อนคันเกียร์เพียงแต่ใช้ปุ่ม OD ซึ่งช่วยให้สะดวกขึ้นมากรวมทั้งในกรณีต้องการเชนจ์เกียร์เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยเบรค(เอนจิ้นเบรค) เช่น ขณะถนนลื่นหรือลงจากที่สูงก็ใช้ได้
นอกจำโปรแกรมทั่ว ๆ ไปในรถบางรุ่นโดยเฉพาะพวกรถสปอร์ตหรือนั่งจะมีปุ่มที่เขียนว่า Sport-Comfortปุ่มต่อมาอันนี้จะไม่อยู่ที่หัวเกียร์ส่วนมากจะอยู่ที่แผงหน้าปัทม์หรือบริเวณคอนโซลข้าง ๆคันเกียร์ในรถบางรุ่นจะใช้ SportEconomyโปรแกรมนี้ออกแบบมาให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ช้าลงในโปรแกรม Sport หมายถึงจะลากเกียร์ได้ยาวขึ้นและเกียร์จะเปลี่ยนที่รอบเครื่องยนต์สูงขึ้นกว่าเดิมทำให้ได้อัตราเร่งที่ดีขึ้นต่างจากในโปรแกรม Comfort หรือ Economy ซึ่งเน้นที่ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเกียร์จะเปลี่ยนตั้งแต่ความเร็วรอบเครื่องยนต์รอบที่ต่ำกว่าเหมือนตอนที่เราขับรถเกียร์ธรรมดาตอนที่ไม่รีบร้อนนั่นเองทำให้ผู้โดยารนั่งสบายไม่เกิดการกระชากที่รุนแรงเหมือนนั่งรถแข่ง
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment